文章标签 ‘泰国道教’ 的汇整

  • ศาสนาเต๋าในประเทศไทยโดยสรุป

    日期:2013.01.25 | 分类:谈天说道 | 评论数:0

    泰国道教概述(泰文版)

    การย้ายถิ่นฐานของชาวจีนโพ้นทะเลในประเทศไทย (ชาติพันธุ์จีน) เกิดขึ้นตั้งแต่ยุคเฟื่องฟูของสมัยราชวงศ์ถังถึงยุคโจรสลัดญี่ปุ่นก่อกวนในสมัยราชวงศ์หมิง และย้ายถิ่นฐานมายังทะเลจีนใต้มากขึ้นในปลายรัชสมัยราชวงศ์ชิง ซึ่งในการย้ายถิ่นฐานนี้ก็เป็นการนำเอาวัฒนธรรมและความเชื่อในเทพเจ้า(ศาสนาเต๋า)ตามติดออกมาสู่ภายนอกประเทศ การที่ชาวจีนโพ้นทะเลต้องดำรงชีวิตอยู่ร่วมกับกลุ่มชนต่างชนชาติในต่างแดน แต่พวกเขาก็มีจุดร่วมของการนับถือและการคิดถึงบ้านเกิดเมืองนอน ก่อให้เกิดกิจกรรมต่างๆร่วมกัน ดังนั้นกิจกรรมในพิธีทางศาสนา การที่พวกเขามีความเชื่อร่วมกันทำให้พวกเขาพร้อมกันจุดธูป คุกเข่ากราบไหว้ สมานสามัคคีเป็นอันหนึ่งอันเดียวฟันฝ่าอุปสรรคและความทุกข์ยาก โดยไม่รู้สึกถึงความโดดเดี่ยว ในสมัยราชกาลที่ 5 พระปิยะมหาราชทรงมีความเมตตาทรงผ่อนปรนกฏบัญญัติต่อชนชาวจีนมาก ในเวลานี้เองทำให้การดำรงชีพของชุมชนชาวจีนมีความมั่นคงขึ้น และสถานะทางสังคมในไทยก็ได้รับการยอมรับมากยิ่งขึ้น จึงทำให้ชุมชนชาวจีนกล้าที่จะลงรากสร้างศาลเจ้าหรือวัด เพื่อแสดงออกถึงความเชื่อถือเทพเจ้าของบ้านเกิดตัวเอง นับระยะเวลามาถึงปัจจุบันมีประวัติซึ่งเกินร้อยปีขึ้นไป และเหล่าศาลเจ้าศาสนาเต๋ายังคงเหลือให้เห็นอยู่เป็นจำนวนไม่น้อย เช่น
    1. ศาลเจ้ากวนตี้อู่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำธนบุรี ป้ายบนประตูศาลจารึกไว้เป็นปี 1781 เชื่อระยะเริ่มก่อสร้างต้องก่อนหน้านี้อีกประมาณหนึ่ง
    2. สร้างเมื่อปี 1782 ศาลเจ้าเซวินเทียนซางตี้ตั้งอยู่ที่อยุธยา ป้ายบนประตูศาลจารึกไว้เป็นปี 1842
    3. สร้างเมื่อปี 1816 ศาลเจ้าบ้านหม้อ ก็คือศาลปุ้นเถ่ากงบ้านหม้อ
    4. สร้างเมื่อปี 1872 ศาลเจ้ากวนตี้ที่เกาะสมุย
    5. สร้างเมื่อปี 1854 ศาลเจ้าเซียนกงตลาดน้อย
    6. สร้างเมื่อปี 1864 ถนนเจริญกรุงใกล้ปากซอย 63 ศาลเจ้าซินซิ่งกงเทียนจี้
    7. สร้างเมื่อปี 1883 ใกล้กับสถานีรถไฟหัวลำโพงถนนไมตรีจิตต์ศาลเจ้าชีเซิ่นมา (ชิกเซียนมา)
    8. สร้างเมื่อปี 1892 ถนนสำเพ็งซอยตลอดเก่าศาลกวนตี้
    9. สร้างเมื่อปี 1893 ถนนวัดสามปลื้มซอยสำเพ็งศาลซินซิ่ง (ศาลเจ้าจิ่วฮวงจิโต๋เหล่า) และ
    10. สร้างเมื่อปี 1902 และศาลเจ้าลวี่ตี้ตั้งอยู่ที่กรุงเทพฯ เป็นต้น
    เมื่อย้อนไป 70 ปีก่อนรัฐบาลไทยได้ประกาศนโยบายด้านการศึกษา โดยกำหนดห้ามการเปิดเรียนเปิดสอนภาษาจีนดังนั้น ลูกหลานชาวจีนอายุ 60 ปีลงมาส่วนมากไม่สามารถพูดเขียนภาษาจีนได้แล้ว แม้แต่แซ่ของตัวเองก็ไม่สามารถเขียนได้ ยิ่งแย่ไปกว่านั้นภาษาจีนท้องถิ่นของตัวเองก็ไม่รู้จัก บางคนรู้ว่าตัวเองเป็นลูกหลานคนจีน แต่ไม่ทราบแซ่อะไร เมื่อก่อนศาลเจ้าเต๋าจำนวนมากไม่ได้ใช้ภาษาจีนในการถ่ายทอดรุ่นสู่รุ่น และก็ไม่รู้ว่าศาสนาเต๋าคืออะไร รู้แต่เพียงว่าเหล่าเทพเจ้าในศาลเจ้านั้นนำมาจากทางด้านใต้ของจีน กระทั่งบรรพบุรุษผู้สืบทอดศาลเจ้าในยุคก่อนก็ไม่ได้ทิ้งประวัติใดๆไว้ แต่เพื่อให้ศาลเจ้ายังต้องดำรงคงอยู่ต่อไปจึงค่อยๆปรับตัวไปร่วมกับสีสรรของพุทธศาสนา จึงทำให้พิธีกรรมของศาลเจ้าเต๋าในปัจจุบันก็ได้ใช้พิธีเดียวกันกับพุทธศาสนาสายเถรวาท

    ประเทศไทยเป็นเมืองพุทธ ในสังคมชาวจีนเองความรู้เกี่ยวกับศาสนาเต๋า นอกจากนักพรตเต๋าและบรรดาศาสนิกชนศาสนาเต๋าซึ่งมีจำนวนน้อยแล้ว คนทั่วไปเข้าใจว่าการ “ไหว้เจ้า” หรือ “ไหว้เหล่าเอี้ย” ก็คือการ“ไหว้พระ” และการ “ไหว้พระ” ก็คือการ “ไหว้เจ้า” หรือ “ไหว้เหล่าเอี้ย” ทำให้การ “ไหว้เจ้า” หรือ “ไหว้เหล่าเอี้ย” กับการ “ไหว้พระ” คืออันเดียวกันจนยากที่จะแยกออกจากกัน คนทั่วไปรู้ว่าศาสนาพุทธคืออะไร ใครคือศาสดาของศาสนาพุทธ คนส่วนมากไม่รู้จักศาสนาเต๋า? ใครคือศาสดาของศาสนาเต๋า? และก็ไม่รู้ว่าตัวเองนับถือคือศาสนาเต๋า ต่อความหมายและความป็นมาของการ “ไหว้เจ้า” หรือ “ไหว้เหล่าเอี้ย” ไม่ชัดเจน เป็นเช่นนี้จากรุ่นสู่รุ่นจวบจนปัจจุบัน ความเข้าใจของสังคมต่อศาสนาเต๋ายิ่งมายิ่งลางเลือน ด้วยเหตุนี้จึงมีความจำเป็นที่จะต้องกล่าวสรุปโดยย่อเกี่ยวกับศาสนาอันเก่าแก่ของเรา-ศาสนาเต๋า

    ในฐานะที่เป็นศาสนิกชนของศาสนาเต๋า อันดับแรกจะต้องเข้าใจที่มาที่ไปของความเชื่อถือของเรา ตลอดจน ประวัติศาสตร์ ความหมายและแก่นธรรมคืออะไร? ในโอกาศนี้เรามาร่วมกันศึกษาศาสนาต๋าที่เราเคารพและนับถือ
    ศาสนาเต๋าเป็นศาสนาที่เก่าแก่ของชนชาวจีน มีประวัติศาสตร์อันยาวนานนับเวลาถึงปัจจุบันมีอายุได้ 4,711 ปี โดยเริ่มต้นจากราชวงศ์ฮวงตี้ เฟื่องฟูยุคเหลาจื้อในรัชสมัยราชวงศ์โจ พัฒนาเป็นศาสนาโดยจางเต้าจวินในราชวงศ์ฮั่น ศาสนาเต๋าเคารพฟ้าและกราบไหว้บรรพบุรุษเป็นฐาน บนพื้นฐานของความเชื่อนั้นให้ “เต๋า” เป็นสภาวะสูงสุด การศึกษาเทพยดาเซียนเป็นแก่นกลาง จวบถึงปัจจุบันมีเนื้อหาที่กว้างขวางและซับซ้อนมาก ภายในนี้รวมถึงภูมิปัญญาของ ชาวบ้านและวัฒนธรรมที่สืบทอดต่อๆกันมา เป็นต้น เป็นศาสนาของชนชาวจีนแต่ดั้งเดิม

    ศาสนาเต๋ามีความเชื่อว่าสรรพสิ่งในใต้เหล้าล้วนแต่มีเทพยดาสิงสถิอยู่ “ผู้ใดมีเต๋าผู้นั้นได้ชื่อว่าเป็นผู้มีคุณธรรม” เน้นถึงปุถุชนต้องปฏิบัติธรรม (เต๋า)และสะสมความคุณธรรม ส่งเสริมในชีวิตประจำวันต้องมีเมตตา ประหยัดและอ่อนน้อมถ่อมตน ในการปฏิบัติพัฒนาภายในตนเองนั้นเน้นที่ความสงบสันโดษไม่แก่งแย่ง

    ศาสนาเต๋าเคารพนับถือเทพเจ้าหลากหลายองค์ ในจำนวนนี้ต้องนับว่า ซานชิงเป็นเทพแห่งเทพเจ้า นอกจากนั้นยังมีสามเทพแห่งจักรวรรดิ์(เทพฟ้า เทพดินและเทพน้ำ) ตลอดจนถึงเจ้าพ่อเมืองและเจ้าที่เจ้าทาง สังเกตุเห็นว่าในบรรดาเทพเหล่านี้มีที่มาจากฟ้าดิน คนเดินดินบรรลุเซียน รวมถึงบุคคลในประวัติศาสตร์ที่มีบารมี มีความรู้ มีปฏิบัติดีมีคุณธรรมและแพทย์ที่มีผลงานความโดดเด่นเป็นต้น

  • 泰国道教概述

    日期:2013.01.21 | 分类:谈天说道 | 评论数:0

    泰国华人(中华民族)南移至泰国,可追溯至唐朝的盛唐时期开始,至明朝倭寇乱华和清朝末期更多人往泰国迁移,在迁移时,都会将家乡的风俗习惯与神明信仰(道教)一同带往海外。来到泰国的华人,生活在异国的不同民族大家庭之中,他们的共同信仰,把他们对于祖国和故乡的情结,展现为一种共同的行为。每当举行大型宗教活动时,共同的宗教信仰使他们一起烧香,一起跪拜,团结和凝聚在一起,使他们在艰苦奋斗中获得一种不孤独的凝聚感情。移民到泰国的华人,一直到五世皇朱拉隆功大帝在位时,政策上对华人特别宽容,此时,华人的生活才开始逐渐趋向稳定,在泰国的社会地位已经开始受到肯定。因此,敢于将家乡的信仰(道教) 在此扎根,此时修建了大量的庙宇。至今,超过百年历史的道教古庙还有很多间。如:

    1. 建于曼谷吞武里临河的关帝武圣庙,庙内有一匾额,题记1781年,相信建庙的时间还要早一些;
    2. 建于1782年位于都城墙内的玄天上帝庙,庙内挂有1842年的匾额;
    3. 建于1816年的万望古庙,即万望老本头公古庙;
    4. 建于1872年的苏梅岛关帝庙;
    5. 建于1854年哒叻仔的仙公宫;
    6. 建于1864年石龙军路近63巷口的新兴宫天妃圣庙;
    7. 建于1883年近华喃蓬火车站迈滴集路的七圣妈庙;
    8. 建于1892年三聘街老哒叻巷的关帝古庙;
    9. 建于1893年在越三饭路三聘直街的新兴坛(九皇及斗姥庙)和
    10. 建于1902年的吕帝庙……等等。
    七十多年前泰国实施了同化政策,不准民间开办华校并禁用华文华语。所以,在今天的泰国,很多六十岁以下的华人后裔,大多数都不会讲华语写华文,也有甚至连本身的姓名也写不出,更槽的是连自己的方言都不懂;有的只知道自己是华人,就不知道姓什么。以前很多庙宇都没有中文文字传承也不知道道教是什么,只知华人神庙众神是从中国南移带进来的,甚至早期的华裔神庙,祖先也没把文史留下。而神庙必须生存下来慢慢一点一点渗入佛教色彩,所以演变成现今的神庙仪式都采用小乘佛教仪式。
    泰国是个佛教国家,在华人社会里,了解道教的人,除了在职道士和少数对道教有认识的信徒外,一般人把“拜神”或“拜老爷”当作“拜佛”,也把“拜佛”当成“拜神”或“拜老爷”,让“拜神”或“拜老爷”与“拜佛”纠缠在一块,难解难分。很多人知道佛教是什么、佛祖是谁;大部分的人根本不知道什么是道教?道祖是谁?也不知道他们所信仰就是道教。对“拜神”或“拜老爷” 的由来与含义不清楚,而且,就这样一代接一代的传承下去,直到今天,社会对于道教的了解就越来越模糊,因此,有必要给大家简单的概述我们的古老宗教–道教。
    身为道教徒,首先必须要了解我们的信仰由来,其历史和教理教义是什么?借今天这个机会,和大家一起学习,我们所信仰的道教。
    近代大文豪鲁迅先生说过,华人的根底全在道教。道教是中华民族的古老宗教,其历史渊远流长,距今已有4,711年。源自黄帝,倡于周代老子,成教于汉代的张道陵。道教以敬天祭祖为本,在信仰的基础上以道为最高境界,神仙学说为中心,从古至今,其内容十分庞杂,里面含有民间风俗习惯,和文化传统等………,是中华民族固有的宗教。
    道教以天地万物都有神灵,并谓“道之在我就是德”,强调人一定要修道积德,主张日常生活中要慈爱、节俭、谦让。在个人修养方面以清静无为为内修功夫。
    道教崇拜的神祇很多,而以三清为首,其下有三官大帝(天官、地官和水官) ,以至城隍、土地之神。其中既有天神、真仙,也有历史人物,有显赫权贵,也有著名学者,仁人善士和杰出的医学家等等。